Category: Online Marketing & SEO Training

Category: Online Marketing & SEO Training

การนำดิจิตอล Marketing มาใช้ในการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ
Image May 3, 2019 Online Marketing & SEO Training Ken Sitti

การใช้นโยบายในการตัดราคา นอกจากจะทำให้ธุรกิจของเราค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือ และจะทำให้กำไรน้อยลงอีกด้วย จึงควรหันมาให้ความสนใจกับการทำ Testimonials มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่มีการแข่งขันสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะสู้เจ้าใหญ่ไม่ได้ การที่ได้รับคำชมเชยจากลูกค้าถือว่าเป็นการทำให้ธุรกิจของเราเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น Testimonials คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไร Testimonials คือ คำชมเชย หรือการบอกเล่าประสบการณ์ที่ประทับใจในการใช้สินค้า/บริการ ของลูกค้า ซึ่งอยากจะบอกเล่าให้กับผู้อื่นได้ทราบโดย Testimonial ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแบรนด์ให้คนทั่วไปได้รู้จัก เช่นเมื่อมีคนมาชมแบรนด์ของเรา แล้วลูกค้ากลุ่มเดียวกัน ที่มี Life style คล้ายๆกัน (อาจจะเป็นกลุ่มคนที่มีอายุใกล้เคียงกัน อาชีพเดียวกัน หรือมีประสบการณ์เดียวกัน) เมื่อเห็นว่าคนๆนั้นได้สิ่งที่ดีจากเราไป ก็จะทำให้เกิดความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการของเรามากขึ้น Testimonials ควรเริ่มทำอย่างไรดี ควรกำหนดเวลาที่จะรวบรวม Testimonials อย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นเรื่องที่ทำหรือไม่ทำก็ได้ Testimonials ถูกจัดทำขึ้นเพื่อสะท้อนสิ่งที่เราอยากจะบอกกับลูกค้า ขอความคิดเห็นจากลูกค้าเสมอ เพราะมีลูกค้าเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำให้ จึงต้องทำมันอย่างสม่ำเสมอ และหลังจากที่ลูกค้าทำเสร็จแล้ว ก็ควรขอบคุณลูกค้าที่สละเวลามาทำให้ บางทีคุณอาจจะร่างบทพูดให้ลูกค้าก่อน ให้ลูกค้าสามารถรู้ได้ว่า ควรจะพูดออกมายังไง เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลาของลูกค้ามากจนเกินไป ปัญหาของลูกค้าคืออะไร มีช่องทางการติดต่อกับลูกค้าอย่างไร (อาจจะหมายถึงการที่บริษัทเราถูกแนะนำจากลูกค้าคนก่อนๆ) ผลตอบแทนที่ลูกค้าได้จากบริษัทของคุณเป็นอย่างไร ได้ผลดีไหม

Details
กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ 2018-2019
Image October 31, 2018 Online Marketing & SEO Training Ken Sitti

กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์สำหรับปี 2018-2019 สำหรับธุรกิจ SME ในปัจจุบันการแข่งขันการทางธุรกิจบนตลาดออนไลน์นั้น มีความเข้มข้นขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ของเราขึ้นไปอยู่หน้าแรกๆหรืออับดับต้นๆของ Google Search Engine หรือจะเป็นการโฆษณาบนโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube, Instagram ซึ่งในวันนี้เราก็อยากที่จะมาแชร์แนวคิดในการทำการตลาดที่เหมาะสมกับปัจจุบันกันครับ ก่อนอื่น เราควรหาวิธีการทำการตลาดออนไลน์ (digital marketing) อย่างเป็นระบบ ซึ่งการที่เราสร้างกระบวนการทำงานให้เป็นระบบจะช่วยให้การทำการตลาดนั้นมีความสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การสร้างระบบงานสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ Planning (การวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์) ในการวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์ เราควรวางแผนก่อนเสมอว่า เราควรทำการตลาดบนแพลตฟอร์มไหน งบประมาณเท่าไร จะใช้สื่อมีเดียอะไรในการสื่อสารไปยังลูกค้า และสิ่งที่สำคัญคือลูกค้าในแพลตฟอร์มนั้นๆมีพฤติกรรมอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าใน Facebook มีพฤติกรรมที่ชอบดูรูปภาพ พร้อมกับอ่านโพสประกอบ ซึ่งเราก็ควรจะมีรูปภาพสวยๆประกอบ บวกกับข้อความที่ชัดเจน กระชับ น่าอ่านไม่น่าเบื่อเป็นต้น และกรณีที่เราจะทำวิดีโอลงบนเฟสบุ๊ค เราก็อาจจะทำวิดีโอให้มีความกระชับชัดเจน เป็นต้น อีกหนึ่งสิ่งคือเราก็ควรจะวางแผนด้วยว่า จะวัดผลอย่างไร Content Creation (การสร้างคอนเทนต์) การสร้างคอนเทนท์ให้น่าสนใจจะเป็นผลที่ได้จากการวางแผนในขั้นตอนการวางแผน ว่าเราควรจะผลิตสื่อคอนเท้นท์แบบไหนให้ตรงใจกับกลุ่มผู้ชมให้มากที่สุด

Details
Moz & SEO Tools
Image September 23, 2016 Online Marketing & SEO Training Ken Sitti

Moz คืออะไร ?? ในวงการนักโปรโมทเว็บไซด์หรือนักรับทำ Search Engine Optimization (SEO) นั้นใครๆก็ต้องรู้จัก MOZ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทรับทำ SEO ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ทีมงานของ MOZ ได้ทำการคิดค้นเครื่องมือในการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของโดเมนเนมและเพจ โดยใช้คำศัพท์ทางเทคนิคว่า Domain Authority (“DA”) และ Page Authority (“PA”) Moz’s Open Site Explorer เครื่องมือ Open Site Explorer ที่ MOZ เป็นผู้ทำการคิดค้นขึ้นดังในรูปด้านบน นักรับทำ SEO จะใช้เครื่องมือนี้สำหรับทำการวิเคราะห์ค่า Domain Authority (DA) ค่า Page Authority (PA) ค่า SPAM SCORE และค่าอื่นๆที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์เว็บไซด์ที่ตนดูแล โดยจะนำไปทำการวางแผนในการเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซด์ เพื่อโปรโมทเว็บไซด์นี้ให้ติดอันดับต้นๆของผลการค้นหาใน Google Search Engine ด้วยคำศัพท์ (Keyword) ที่เกี่ยวข้อง Domain Authority

Details
Google Webmaster Tools
Image September 23, 2016 Online Marketing & SEO Training Ken Sitti

Google Webmaster Tools คืออะไร? Google Webmaster Tools หรือที่ตัวย่อสั้นๆว่า GWT เป็นเครื่องมือเบื้องต้นที่ Google ได้จัดทำไว้ให้กับเจ้าของหรือผู้ดูแลเว็บไซด์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซด์ของตน เช่น จำนวนผู้เยี่ยมชมในแต่ละวัน คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องที่ผู้ใช้ Google นิยมใช้ในการค้นหา ความผิดปรกติของเว็บไซด์ เป็นต้น ซึ่งผู้ดูแลจัดการเว็บไซด์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงเว็บไซด์ของตนเองให้ดียิ่งขึ้น สำหรับนักโปรโมทเว็บไซด์ (Search Engine Optimization หรือ SEO) เครื่องมือ GWT ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์เว็บไซด์ของลูกค้าที่ตนดูแล เพื่อนำไปใช้ในการโปรโมทเว็บไซด์ให้แสดงผลบนลำดับต้นๆของ Google Search Engine ได้ Google Webmaster Tools มีเครื่องมืออะไรที่น่าสนใจบ้าง ลองมาดูกันครับ Site Dashboard หน้า Dashboard เป็นหน้ารวมของการแสดงผลใน Google Webmaster Tools ณ สถานะปัจจุบัน (Current Status) โดยประกอบด้วย Crawl

Details
Google AdWords vs SEO
Image September 23, 2016 Online Marketing & SEO Training Ken Sitti

การโฆษณา Google AdWords vs SEO การโฆษณาออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโฆษณาบน Google ที่เรียกกันว่า “Google AdWords” (หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า “กูเกิลแอดเวิร์ด”) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ที่ต้องการทำการโฆษณาสามารถจำกัดงบประมาณในการลงโฆษณาได้ตามความเหมาะสม ซึ่งต่างจากการโฆษณาแบบเดิมๆ เช่น โทรทัศน์ ป้ายโฆษณา นิตยสารที่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนในการโฆษณาแต่ละครั้งเป็นอย่างมาก โฆษณากูเกิลแอดเวิร์ดปรากฏที่ส่วนไหนของกูเกิล? หลายๆท่านที่เคยใช้ Google ในการค้นหาเว็บไซด์น่าจะเคยสังเกตเห็นตัวหนังสือสีเหลืองๆส้มๆที่มีคำว่า “โฆษณา” อยู่ด้านบนสุดหรือด้านขวามือของผลการค้นหา เว็บไซด์ที่ปรากฏขึ้นในส่วนนี้เกิดจากการโฆษณากูเกิลแอดเวิร์ดนั่นเอง สังเกตจากรูปด้านล่าง เราลองพิมพ์ค้นหาด้วยคำว่า “หลังคาเมทัลชีท” บนหน้าค้นหาของ Google จะพบว่ามี 3 โฆษณาของกูเกิลแอดเวิร์ดปรากฏขึ้น อยู่เหนือส่วนของ รูปภาพสำหรับ หลังคาเมทัลชีท ค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณากูเกิลแอดเวิร์ดมีลักษณะเป็น Pay-Per-Click (PPC) หรือคิดเป็นราคาต่อการกดคลิกหนึ่งครั้งโดยผู้ใช้งาน ซึ่งแต่ละคำจะมีค่าใช้จ่ายไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง เช่น คำว่า “หลังคาเมทัลชีท” อาจมีค่าใช้จ่ายอยู่ในระหว่าง 30-40 บาท/คลิก โดย Google จะมีมูลค่าการโฆษณาที่แนะนำ (Suggested bid) ไว้ให้ การใช้งาน Google AdWords

Details